RSS
Facebook
Twitter

วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

 ตกแต่งภาพแนว Art ด้วยตัวหนังสือ โดยใช้โปรแกรม Photoshop
 
สำหรับบทความ Photoshop บทความนี้ เป็นการตกแต่งภาพด้วยตัวหนังสือ ให้ออกมาเป็นภาพแนวอาร์ตสวย ๆ ด้วยการใช้ตัวหนังสือ จะออกมาเป็นอย่างไรคลิกดูได้เลยค่ะ (คิดว่าเพื่อน ๆ น้อง ๆ คงเคยเห็นภาพสไตล์นี้มาบ้างแล้ว)
   
  
   
สำหรับบทความ Photoshop บทความนี้ ก็เตรียมและทำรูปภาพประกอบไว้นานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสอัพขึ้นเว็บซักที วันนี้ว่าง ๆ เลยได้มีโอกาสอัพเดตเว็บซะทีค่ะ ว่าแล้วเราก็มาเริ่มกันเลยค่ะ

ขั้นตอนที่ 1 เปิดโปรแกรม Photoshop ขึ้นมาก่อนค่ะ จากนั้นก็ Open File รูปที่ต้องการจะตกแต่งภาพเข้ามาในโปรแกรม Photoshop ดังภาพที่ 1

จากนั้นให้ทำการเพิ่ม Layer ขึ้นมาอีก 1 Layer โดยการคลิก add new layer ตามภาพในตำแหน่งที่ 1 เมื่อได้เลเยอร์ใหม่ขึ้นมาแล้ว ให้ทำการเทสีให้เลเยอร์นี้เป็นสีดำค่ะ
  
   
ขั้นตอนที่ 2 เราจะพิมพ์ข้อความลงไปให้เต็มทั้งชิ้นงาน ทำได้โดยคลิกที่เครื่องมือ Type Tool จาก Tool Box ด้านซ้ายมือ จากนั้นให้คลิกเมาส์ที่ตำแหน่งมุมบนซ้ายของชิ้นงาน คลิกเมาส์ค้างและลากเมาส์ไปยังมุมล่างขวาของชิ้นงาน แล้วปล่อยเมาส์ ซึ่งเราจะสังเกตเห็นมีการสร้างกล่องข้อความบนชิ้นงาน จากนั้นให้เราคัดลอกข้อความ หรือจะพิมพ์ขึ้นมาเลยก็ได้ ให้เต็มทั้งชิ้นงาน พร้อมปรับขนาดตัวอักษรให้มีขนาดเล็ก ดังภาพหมายเลข 2
  
   
ขั้นตอนที่ 3 เมื่อถึงขั้นตอนนี้ สังเกตที่ Layer Palette ด้านขวามือ เราจะมี Layer ทั้งหมด 3 เลเยอร์ คือ รูปภาพ พื้นสีดำ และเลเยอร์ข้อความ ในขั้นตอนนี้เราจะมาสร้าง Layer Mask ให้กับเลเยอร์ข้อความ ซึ่งสามารถทำได้โดยคลิกที่ add layer mask ตามภาพในตำแหน่งที่ 3 ซึ่งจะทำให้มี layer mask สีขาวถูกสร้างขึ้นตามภาพที่ 3 ค่ะ
  
   
ขั้นตอนที่ 4 ให้ทำการคลิกที่ Layer แรก (เลเยอร์รูปภาพ) จากนั้นกด Key ลัด กดปุ่ม Ctrl + A เพื่อทำการเลือกพื้นที่ทั้งหมด (จะใช้คำสั่ง Slect-->All จากเมนูบาร์ก็ได้) จากนั้นใช้ Key ลัด กดปุ่ม Ctrl + C เพื่อทำการคัดลอกข้อมูลของเลเยอร์

ขั้นตอนที่ 5 ให้กดปุ่ม Alt ค้างไว้ แล้วคลิกเมาส์ที่ตำแหน่ง Layer Mask (Layer บนสุึด คลิกให้ถูกตรงที่เป็น Mask) จากนั้นใช้ Key ลัด กดปุ่ม Ctrl + V เพื่อวางภาพที่คัดลอกจากเลเยอร์แรกลงบน Mask ซึ่งจะทำให้ Mask เปลี่ยนจากสี่เหลี่ยมสีขาว เป็นรูปภาพแทน พร้อมรูปชิ้นงานที่กำลังตกแต่งเปลี่ยนจากภาพสีเป็นภาพขาวดำ ดังภาพในตำแหน่งที่ 4
 

ทำความรู้จัก Sticky Notes บน windows 7

images
คนที่ใช้ OS Windows 7 อยู่จะเห็นโปรแกรมตัวหนึ่งชื่อ Sticky Notes อยู่ ซึ่งโปรแกรมตัวนี้เป็นโปรแกรมที่เอาไว้บันทึกส่วนตัวของเรา ว่าเราจะทำอะไรบ้าง ซึ่งผมก็จะใช้อยู่เป็นประจำเหมือนกับว่าเราเขียน Short notes เอาไว้เตือนความจำ
1. วิธีการใช้ก็ทั่วๆไปน่ะ เปิดโปรแกรมขึ้นมา ชื่อโปรแกรม Sticky Notes มีเฉพาะบน Windows 7 นะครับ
Note_1
2. หลังจากนั้นเราก็ลองพิมพ์ข้อความที่เราต้องการลงไป เพื่อเตือนความจำ
แต่ถ้าจะเพิ่ม Notes ขึ้นมาอีกอันก็ให้กด เครื่องหมาย(+) เลย หรือถ้าจะลบ Notes ตัวนั้นก็ให้กดเครื่องหมาย (x)


Note_2
3. ลักษณะการแปะ Notes เอาไว้บน Desktop เพื่อเตือนความจำของเรา
Note_3

โปรแกรม Windows live Messenger ,MSN

windows_liveMSN

หลายคนไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วว่า โปรแกรม Windows live Messenger หรือที่เราติดปากเรียกกันว่า MSN นั้นเอง เอาไว้ทำอะไร มันเป็นโปรแกรม Chat หาเเพื่อน เอาไว้คุยกับเพื่อน
Windows Live Essentials requires the following:


Operating system: Windows XP with Service Pack 2 (32-bit edition only), Windows Vista (32-bit or 64-bit editions), Windows 7 (32-bit or 64-bit editions), or Windows Server 2008.


Note

Windows Live Movie Maker and the slide show feature of Windows Live Photo Gallery aren't supported on Windows XP.


Processor: 1 GHz or higher for Windows 7 or Windows Vista; 800 MHz or higher for Windows XP.

Memory: 512 MB of RAM for Windows 7 or Windows Vista; 128 MB (256 MB or more recommended) for Windows XP.

Resolution: Minimum 1024 x 768

Internet connection: Internet functionality requires dial-up or broadband Internet access (provided separately). Local or long-distance charges may apply.

Browser: Windows Live Toolbar requires Internet Explorer 6, Internet Explorer 7, or Internet Explorer 8.

Graphics or video card: Windows Live Movie Maker requires a video card that supports DirectX 9 or higher, and Shader Model 2 or higher.

โปรแกรมแปลงไฟล์ ImTOO Video Converter

ImTOO_Video_Converter_1
โปรแกรมแปลงไฟล์ ImTOO Video Converter ไม่มีใครไม่รู้จักกับเจ้าโปรแกรมนี้ โปรแกรมนี้สารพัดประโยชน์มาก โดยหลักๆเอาไว้แปลงไฟล์นั้นเองโปรแกรมImTOO Video Converter  เป็นโปรแกรมเอาไว้ตัดแต่งและแปลงไฟล์ วีดีโอ ,เสียง และ animated image เท่าที่ผมดู Features การแปลงไฟล์ของโปรแกรมนี้นะครับ ผมว่าไฟล์ที่สามารถแปลงไฟล์ได้นี้ครบทุกนามสกุลของทุกไฟล์ที่อยู่บนโลกนี้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็น เช่น AVI, HD MPEG2, HD MPEG2 TS, HD MPEG4, HD WMV, HD VOB, HD ASF, H.264/MPEG-4 AVC, AVCHD (*.m2ts, *.mts), MKV, HD WMV, and MPEG2/MPEG-4 TS HD และนามสกุลอื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วนครับ


วันนี้ผมจะมาสอนใช้โปรแกรม ImTOO Video Converter

โปรแกรม Version ที่ผมใช้ทดสอบแปลงไฟล์ ImTOO Video Converter  Untimate 6
1. หน้าตาโปรแกรมแปลงไฟล์ ImTOO Video Converter ตัว License แปลงไฟล์ได้ทุกนามสกุล
ImTOO_Video_Converter_1

2. ขั้นตอนแรกในการแปลงไฟล์ให้ไปที่
หมายเลข1 ให้เลือก Add file VDO,เสียง ที่เราต้องการแปลงไฟล์เข้ามาสู่้ในโปรแกรมImTOO Video Converter หลังจากที่ Add file เรียบร้อยก็จะได้ไฟล์ตามที่ลูกศรชี้เอาไว้
ImTOO_Video_Converter_2


ImTOO_Video_Converter_3

โดยเราสามารถดู preview ด้านขวาของโปรแกรมได้ด้วยครับ เพราะบางคนอาจจะตัดหนังเฉพาะช่วงก็ได้ครับ

3. จากนั้นทำขั้นตอนต่อไปคือ
หมายเลข 2 จากนั้นให้เลือก ไฟล์นามสกุลของเีราที่ต้องการแปลงออกมานั่นคือไฟล์ Out put นั้นเอง สำหรับ Version ที่ผมใช้นั้นสามารถแปลงออกมาได้ทุกไฟล์ครับ
ImTOO_Video_Converter_4

4. เมื่อเราเลือกไฟล์นามสกุลที่เราต้องการแปลงได้แล้วก็ให้มาเลือกที่เก็บของไฟล์ว่าจะเก็บไว้ที่ไหนหลังจากที่ทำการ Convert file ดังกล่าวเรียบร้อย นั่นก็คือหมายเลข3
5. จากนั้นให้เลือกไฮไลท์ไฟล์ที่เราต้องการแปลงไฟล์ แล้วกดปุ่มดังกล่าว จากนั้นก็นั่งกินขนมรอไฟล์ที่เราแปลง
จากรูปผมแปลงไฟล์หนัง fomat .mkv ให้ไปเป็นไฟล์ iPad-MPEG-4 ครับ โดยการแปลงไฟล์นานหรือไม่นานขึ้นอยู่กับขนาดของไฟล์ต้นฉบับครับกับความเร็วของ CPU นั่นเอง
ImTOO_Video_Converter_5

โดยทั่วไปโปรแกรมแปลงไฟล์ImTOO Video Converter ถ้าคนไหนที่ไม่ได้ซื้อ Licence หรือว่าดาวน์โหลดโปรแกรมImTOO Video Converterมาจาก website ของทางผู้ผลิตโดยตรงเวลาแปลงไฟล์เราก็จะแปลงไฟล์ได้ไม่กี่นาที หรือแปลงไฟล์ได้ออกมาไม่กี่นามสกุล แต่ถ้าเสียตังค่า License ซื้อโปรแกรมนี้มาคุณก็สามารถทำได้ทุกฟังกชั่นเลยครับ

สอนวิธีการทำไฟล์ .iso .nrg

Nero-Create-iso-1
ในการทำไฟล์ .iso หรือ .nrg นั้นทำได้ง่ายๆครับไม่ยากอะไรเลยครับ การทำไฟล์ .iso นั้นส่วนมากจะเอาไว้ทำไฟล์หนังหรือไฟล์เกมแล้วแต่คนว่าจะเอาไปทำอะไร บางคนเอาไฟล์หลายๆไฟล์มารวมเป็น File .iso เพื่อทำการรวมไฟล์และแจกในเว็ปบิตเพื่อปล่อยไฟล์ โดยส่วนมากจะใช้โปรแกรม nero ทำกันครับ

สิ่งที่ต้องเตรียมกันก่อนการทำไฟล์ .iso

1. ต้องมีโปรแกรม Nero
2. ไฟล์ที่จะแปลงไปเป็น .iso


วิธีการทำ File .iso

1.  ทำการเปิดโปรแกรมขึ้นมา จากนั้นเลือก CD หรือ DVD แล้วแต่เราครับ จากนั้นเลือกทำข้อมูล
Nero-Create-iso-1

2. จากนั้นให้เราเลือก File ที่เราจะมาทำเป็นไฟล์ .iso โดยการกด Add และเลือกไฟล์ จากนั้นกด Next
Nero-Create-iso-2

3. จากนั้นให้เราเลือก Image Recoder และกด Burn
Nero-Create-iso-3

4. จากนั้นให้เลือกที่ save file โดยให้เราตั้งชื่อไฟล์ และเลือก save as type เป็น .iso
แต่ถ้าคนไหนต้องการเป็น .nrg ก็ให้เลือกตามนั้น แล้วแต่สะดวก
จากนั้นกด save


Nero-Create-iso-4

5. จากนั้นเราก็ได้ file .iso ตามที่เราต้องการแล้วครับ
Nero-Create-iso-5

ต่อจากนั้นเราก็จะแปลงไฟล์ต่างๆมาเป็นไฟล์นามสกุล .iso หรือ .nrg กันแล้วครับ

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การเตรียมการก่อนการ write ข้อมูลลงแผ่น DVD /CD

1. แผ่น DVD / CD เปล่าๆ ที่ต้องการ Write
2. คอมพิวเตอร์ที่ DVD ROM สามารถ Write ข้อมูลได้ ส่วนมากเดี๋ยวนี้ ก็ Write DVD/CD ได้หมดแล้วครับ
3. ข้อมูลที่เราต้องการจะ Write ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล หรือเพลง mp3 ต่างๆ

อธิบายการใช้โปรแกรม  Nero Express 

จากนั้นจะมีหัวข้อต่างๆมากมายให้เราเลือก โดยถ้าเราเลือกไปที่
- หัวข้อ DATA  มันก็จะมี DVD กับ CD  
โดยให้เราเลือกชนิดที่ต้องการว่าจะ Write แบบ แผ่น DVD หรือ CD
ถ้าแผ่น DVD ก็จะมี DVD9(เก็บข้อมูลได้ประมาณ 8.7 GB ) กับ DVD5 (เก็บข้อมูลได้ประมาณ 4.7GB )
Program-Nero12-2
- หัวข้อ Music ส่วนมากก็จะเลือก Audio CD กัน เพื่อ write เพลง Mp3 ต่างๆเอาไว้ฟังในรถกันครับ
Program-Nero12-3
- หัวข้อ Image , Project, Copy เป็นการ Write ออกมาเป็นประเภท Image ต่างๆ หรือมีไฟล์ Image อยู่แล้วแต่ต้องการ write ลงแผ่น DVD/CD
Program-Nero12-4
- ถ้าเรากดเครื่องมือก็จะมีเมนูโผล่ขึ้นมา ปกติไม่ค่อยจะได้ใช้กันเท่าไร จะใช้บางเฉพาะเมนู
Program-Nero12-5

สอนวิธีการ write แผ่น DVD/CD ด้วยโปรแกรม Nero Express

1. ทำการลงโปรแกรม Nero กันก่อนครับ โดยโปรแกรมที่ผมใช้มันคือ Nero 12 Express
Program-Nero12-1
2. ทำการเปิดโปรแกรม Nero ขึ้นมา และทำการใส่แผ่น DVD/CD เข้าไปใน DVD-ROM ที่คอมพิวเตอร์ของเรา
3. ในกรณีนี้ผมเลือกที่จะทำการ Write ข้อมูลที่เป็นแบบ DVD ครับผม ผมก็เลือก DATA > DVD
4. จากนั้นกด Add และทำการ Browsor หาไฟล์ที่เราต้องการ Write
โดยถ้าเป็น DVD จะมีให้เลือก DVD 9 กับ DVD 5 
เมื่อเลือกไฟล์เรียบร้อยให้เรากด Next
Program-Nero12-6
5. Current Recorder : ให้เราเลือก Drive DVD-RW ของคอมพิวเตอร์ของเรา
Disc Name : ให้ตั้งชื่อ Disc นี้ครับ
Program-Nero12-7
6. จากนั้นให้เราเลือก Writing Speed ของการ Write ครับ
ข้อแนะนำครับ ถ้าข้อมูลที่เรา Write เป็นพวกหนังหรืองานสำคัญๆ ผมแนะนำให้เลือก 8x - 4x ครับ แต่อาจจะรอนานนิดหน่อยแต่คุณภาพที่ได้จะดีมากๆเลยครับ
จากนั้นก็เลือก Burn เลยครับ
Program-Nero12-8
7. นั่งรอจนกว่าจะ Write เสร็จ จากนั้น DVD-RW ของคอมพิวเตอร์ของเราก็จะเด้งแผ่นออกมาเองครับ
เสร็จสิ้นการ write แผ่น DVD/CD ครับ บางคนอาจจะ Write เพลง , หนัง , หรือพวกรายงานส่งให้อาจารย์ ผมก็ย้ำนะครับก็เลือกประเภทข้อมูลให้สอดคล้องกับแผ่นที่เราจะทำการ write ว่าจะเลือก DVD หรือ CD นั่งเอง

สอนการใช้โปรแกรมแปลงไฟล์ Format Factory 

Format-Factory_1
เดี๋ยวนี้หลายคนชอบ แปลงไฟล์ต่างๆ ลงบนมือถือ เอาไว้ดูใน iPad , iPhone เผื่อเอาไว้ดูตอนเดินทางไป ตจว หรือ เดินทางไปทำงาน ซึ่งก็มี Software หลายตัวที่เอาไว้แปลงไฟล์มีทั้งเสียตังและไม่เสียเงิน แต่วันนี้ผมจะมาแนะนำโปรแกรม Format Factory ซึ่งเป็นโปรแกรมฟรี ที่เอาไว้แปลงไฟล์ นั่นเอง ซึ่งผมจะมาสอนวิธีการแปลงไฟล์ให้ดูกันครับ ว่าแปลงไฟล์กันอย่างไร สำหรับมือใหม่ในการแปลงไฟล์

วิธีการแปลงไฟล์ Format Factory 

1. ทำการดาวน์โหลดโปรแกรมมาลง  > จากนั้นก็ลงโปรแกรม และเปิดโปรแกรมขึ้นมา
2. ทำการเปิดโปรแกรมขึ้นมา จะเห็นเมนูหลักๆ คือ หัวข้อ Video  , Audio
ถ้าเราจะทำการแปลงไฟล์อะไรก็ให้เลือกหัวข้อนั้นๆ
เช่นตัวอย่าง ผมจะแปลงไฟล์ Video ผม ก็เลือกหัวข้อ Video
Format-Factory_1
3. เมื่อเราอยู่ในหัวข้อ Video ก็ให้เราคลิกที่ Icon ว่า จะเลือก แปลงไฟล์ไปเป็นนามสกุลอะไร All to MP4 , All to AVI 
ให้เราคลิก Icon ที่เราจะแปลงไฟล์ > จะมีอีกหน้าต่างขึ้นมา
Format-Factory_2
Format-Factory_3
4. กด Add File เป็นการเลือกไฟล์ที่เราจะแปลงเข้ามาในโปรแกรม
OutPut Folder : เป็น Folder ที่เก็บไฟล์ปลายทางเมื่อเราทำการแปลงไฟล์เสร็จเรียบร้อย
เมื่อเลือกเรียบร้อยก็ให้กด OK
Format-Factory_4
5. จากนั้นให้เราทำการคลิกไปที่ไฟล์ที่เราจะแปลงจากนั้นก็เลือกกด Start
Format-Factory_5
6. จากนั้นก็รอการแปลงไฟล์ครับ
Format-Factory_6
การแปลงไฟล์นั้น จะนานหรือไว ขึ้นอยู่กับ ขนาดของไฟล์เพลงหรือไฟล์ Video ที่เราจะแปลงนะครับ และขึ้นอยู่กับ Spec Computer ของเราด้วยว่าแรงหรือเปล่า จากการที่ผมได้ใช้โปรแกรม Format Factory ผมก็พอใจในระดับหนึ่งเลยครับสำหรับการแปลงไฟล์ต่างๆ เพราะบางครั้งผมก็แปลงไฟล์ลงใน iPad เอาไว้ดูหนังยามว่างๆ

วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สอนวิธีการทำ SS(Screen Short) ของไฟล์หนัง โดยโปรแกรม Media Player Classic

SS
ไอทีไอไทย สอนวิธีการทำ SS(Screen Short) ของไฟล์หนัง ไฟล์Music VDO กับโปรแกรม Media Player Classic (K-Lite)หลายคนสงสัยว่าเค้าทำ SS(Screen Short) กันอย่างไง ทำไม่เป็นอ่ะ ?? ผมจะมาคุณว่ามันทำได้ง่ายมากๆเลยครับ แค่ขอมีโปรแกรม Media Player Classic (K-Lite) ก็พอ และผมคิดว่า ในคอมพิวเตอร์ของคุณก็มีโปรแกรมนี้อยู่ในเครื่อง เพราะเป็นโปรแกรมที่สามารถเปิดไฟล์ได้จริงๆ สุโค่ย !! เลยโปรแกรมนี้
เรามาตั้งค่าของโปรแกรมกันก่อนดีกว่าครับ
1. เปิดโปรแกรม Media Player Classic ขึ้นมาครับ



SS_Media_Player_1
2. กด View - - > Options
SS_Media_Player_2
3. จากนั้นให้เลือก Menu Output และให้ปรับค่าตามภาพ (ในกรอบ) จากนั้นกด Ok
SS_Media_Player_3
4. ในขั้นตอนนี้ให้เราเปิดหนัง มิวสิกเพลง ที่เราต้องการทำ SS(Screen Short) ขึ้นมาครับ 


จากนั้นให้เลือกที่ เมนู File > Save Thumbnails 
SS_Media_Player_4
5. ต่อจากนั้นก็จะปรากฎดังภาพ
File Name : ให้เราตั้งชื่อไฟล์ของ SS(Screen Short) ที่เราจะทำครับ
Save as Type : เลือกนามสกุลของรูปภาพ เช่น .PNG , . JPEG
Thumbnails : ให้เลือก Rows(แนวนอน), Columns(แนวตั้ง)
Images Width : ให้เราเลือกขนาดความกว้างของรูปภาำพ SS
เมื่อตั้งค่าเสร็จหมดทุกอย่างก็ให้กด Ok
*** บางเครื่องคอมพิวเตอร์ Spec คอมพิวเตอร์ต่ำๆ อาจทำให้คอมพิวเตอร์ของท่านช้า หรือ อืด นิดหน่อยนะครับในขั้นตอนการทำ SS(Screen Short)
SS_Media_Player_5
6. เราก็จะได้ไฟล์รูปภาพ SS(Screen Short) ของหนัง Avatar 

วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

 การสร้างฟอร์ม (Form) ใน Dreamweaver
 
บทความนี้เราจะมาเริ่มต้นสร้างฟอร์มกันค่ะ สำหรับใช้เพื่อต่อยอดในการโปรแกรมภาษา PHP ต่อไป ซึ่งเราสามารถสร้าง Form ในโปรแกรม Dreamweawer ได้ง่าย ๆ ดังนี้
   
 
สำหรับฟอร์มเพื่อน ๆ ทุก ๆคนคงจะเห็นกันมาบ้างแล้วในเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว หากเราทำเว็บแบบ Static Page ธรรมดา ๆ คนทำเว็บก็แค่ทำเว็บ และคนเข้าเยี่ยมชมก็จะเห็นข้อมูล แต่จะไม่สามารถตอบสนองกลับไปได้ แต่การนำฟอร์มเข้ามาใช้ร่วมกับ การโปรแกรม จะทำให้ผู้เยี่ยมชมเว็บ สามารถส่งข้อความหรือข้อมูลกลับไปยังเจ้าของเว็บไซต์ได้ ซึ่งเราจะเห็นฟอร์มอยู่บ่อย ๆ ในเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่นในส่วนของ การสั่งซื้อสินค้าและบริการ การสืบค้นข้อมูล การถามตอบ และการส่งอีเมล์ เป็นต้น ซึ่งจะมีอีกหลาย ๆ รูปแบบที่เรานำฟอร์มไปใช้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้สร้างเว็บไซต์นั่น ๆ

เอาล่ะ!! เราก็ได้เกริ่นถึงฟอร์มกันไปบ้างแล้ว ทีนี้ก็มาถึงการเริ่มต้นสร้างฟอร์มกันค่ะ เริ่มแรกเลยก็คือให้เปิดโปรแกรม Dreamweaver ขึ้นมา โดยไปที่ File ---> New ...
 
  
  
   
เมื่อสร้างไฟล์ใหม่แล้ว เราก็จะมาเริ่มสร้าง Form ตามขึ้นตอนดังนี้

1. คลิกที่คำสั่ง Insert--->Form จากเมนูบาร์ ขึ้นตอนนี้คุณจะสังเกตได้ว่าจะมีเส้นปะกรอบสีแดง ๆ เกิดขึ้น ให้สังเกตดูในส่วนของ Properties ที่บริเวณด้านล่าง จะมีส่วนของ Form Name ให้ทำการตั้งชื่อฟอร์มตามวัตถุประสงของการสร้างฟอร์ม ในที่นี้เราจะสร้างฟอร์มเตรียมไว้สำหรับกรอกข้อมูลนักศึกษา จึงขอตั้งชื่อว่า student

2. หลังจากตั้งชื่อฟอร์มเสร็จแล้ว เราจะมาสร้างตาราง (Table) เพื่อเตรียมพื้นที่ในการวางข้อมูล โดยสร้างตารางดังรูปลงในฟอร์ม (สังเกตุ ต้องสร้างข้างในกรอบเส้นปะสีแดงเท่านั้น) พร้อมกับเขียนข้อความตามรภาพที่ 1 ซึ่งฟอร์มที่เราจะสร้างนี้ จะเก็บข้อมูลของนักเรียน ในส่วนของรหัสประจำตัวนักเรียน พร้อมทั้งชื่อและนามสกุลของนักเรียน
  
   
3. เราจะสร้าง Input Form สำหรับกรอกข้อมูล ซึ่งสามารถสร้างได้โดยใช้คำสั่ง Insert--->Form Objects---> Text Field จากเมนูบาร์ โดยสร้างทั้งหมด 3 ฟิลด์ ตามตัวอย่างดังภาพที่ 2 จากนั้นเราจะมากำหนดค่าต่าง ๆ ที่จำเป็นให้กับ Text Field แต่ละอัน ตามรายละเอียดดังนี้

Text Field เป็นการกำหนดชื่อฟิลด์ ให้ตั้งชื่อให้สื่อความหมายในที่นี้ขอตั้งชื่อเป็น id, name, surname ตามลำดับ

Char Width เป็นการกำหนดขนาดความกว้างของฟิลด์ในที่นี้ขอตั้งเป็น 20, 35, 35 ตามลำดับ จริง ๆ แล้วในส่วนนี้ก็แล้วแต่จะกำหนด ในการใช้งานจริงก็ขึ้นอยู่กับความกว้างของพื้นที่ ๆ ต้องการแสดงผลเป็นหลัก

Max Chars เป็นการกำหนดจำนวนอักขระที่สามารถใส่ได้ในฟิลด์ ซึ่งกำหนดได้ตามความเหมาะสม เช่น หากเป็นรหัสนักเรียนที่ความเป็นจริงมีแค่ 10 หลัก ในช่องนี้เราก็กำหนดค่า Max Chars เท่ากับ 10

Single line เป็นการกำหนดให้ฟิลด์มีแค่แถวเดียว
  
   
4. เราจะสร้าง Form Object อีกแบบนั้นก็คือแบบ ปุ่ม โดยให้เราเพื่อแถวขึ้นมาอีกแถว ดังภาพที่ 4 จากนั้นให้ใช้คำสั่ง Insert--->Form Objects--->ฺีButton จะได้ปุ่มดังรูปที่ 4 จากนั้นเราสามารถเปลี่ยนชื่อปุ่ม เปลี่ยนชื่อข้อความบนปุ่ม และเลือกประเภทการทำงานของปุ่ม ตามภาพที่ 5
การทำลิงค์แบบ Named Anchor
 

  
   
Named Anchor คือ จุดอ้างอิง ซึ่งเราจะนำมาใช้ในการทำลิงค์ในหน้าเว็บเดียวกัน หรือลิงค์ไปหน้าอื่น ๆ โดยสามารถระบุจุดอ้างอิงค์ที่จะลิงค์ไปในแต่ละส่วนของเพจ ซึ่งมีวิธีการทำง่าย ๆ ดังนี้

  
ขั้นตอนที่ 1 เปิดโปรแกรม Dreamweaver ขึ้นมา และได้สร้างชิ้นงานใหม่ เมื่อเรามีข้อมูลในหน้านั้น ๆ แล้ว แต่ต้องการลิงค์แบบใช้ Named Anchor ในที่นี้ขอสมมุติว่าในเพจของเรามีข้อมูลอยู่เยอะเกิน 1 Screen หน้าจอ (ในที่นี้ขอสมมุติข้อมูลจำนวน 10 บรรทัด แทนจำนวนข้อมูลของเพจ) แ้ล้วเราต้องการทำปุ่มลิงค์ Go to Top ที่บริเวณล่างสุดของเพจ เพื่ออำนวยประโยชน์ให้คนเข้าเว็บได้ใช้ส่วนนี้เพื่อลิงค์กลับขึ้นมาด้านบน ของเพจ (ไม่ต้องเสียเวลาเลื่อน Scrollbar)

ดังนั้นเราจะต้องมีการสร้างจุดอ้างอิงค์เสียก่อน ในที่นี้จุดอ้างอิงของเราก็คือส่วนบนสุดของเพจ (เพราะเราจะให้ลิงค์แล้วแสดงส่วนบนของเพจ) ให้เราสร้างNamed Anchor ที่บริเวณนี้ โดยวาง Cursor ที่จุดบริเวณด้านบนสุดของเพจ จากนั้นใช้คำสั่ง Insert ---> Named Anchor ซึ่งจะมีหน้าต่างดังภาพในตำแหน่งที่ 1 ปรากฏขึ้น เพื่อให้เราสร้างชื่อจุดอ้างอิงของ Named Anchor ที่เราจะสร้าง ซึ่งควรตั้งชื่อให้เหมาะสมตามจุดประสงค์ของการใช้งาน ในที่นี้ขอตั้งชื่อว่า "top" (เพราะเป็นจุดอ้างอิงค์ด้านบน) ซึ่งจะได้สัญลักษณ์ Named Anchor ตามภาพที่ 2
 
 
 
  
  
   
ขั้นตอนที่ 2 วิธีการลิงค์ Named Anchor

2.1 สำหรับการลิงค์ในหน้าเดียวกัน เช่น การสร้างปุ่ม Go to Top ให้เราสร้างข้อความหรือรูปที่จะทำปุ่มลิงค์ที่ด้านล่างสุดของเพจ จากนั้นลิงค์ไปหา Named Anchor ที่เราได้สร้างไว้ในขั้นตอนที่ 1

วิธีการใ่ส่ลิงค์ภายในหน้าเดียวกัน คือใส่ #ตามด้วยชื่อ Named Anchor ตามตัวอย่างนี้ก็จะสามารถระบุลิงค์เป็น #top ตามภาพตำแหน่งที่ 2

2.2 สำหรับการลิงค์ข้ามเพจ เช่น ในหน้านี้เราทำลิงค์เรื่องการสอน Dreamweaver ไว้ เพื่อลิงค์ไปหน้้าชื่อ dreamweaver.html ซึ่งในหน้านั้นจะมีข้อมูลหัวข้อต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับการสอน Dreamweaver รวมทั้งมีหัวข้อเกี่ยวกับสี ซึ่งเราจะลิงค์ไปหน้า Dreamweaver ในเรื่องของสี เราก็สามารถสร้าง Named Anchor ชื่อ color ไว้ในหน้า Dreamweaver ในบริเวณหน้าที่เป็นเนื้อหาหัวข้อเรื่องสี จากนั้นเราก็มาทำลิงค์ในหน้าที่เราต้องการ ตามตัวอย่างในภาพตำแหน่งที่ 3